OTTERS นาก

tumblr_lzt16u8m6e1qbxpeso1_500

ตัวนากเป็นสัตว์อยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลังชั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อันดับสัตว์กินเนื้อ ในวงศ์ใหญ่ Mustelidae อันเป็นวงศ์เดียวกับวีเซลหรือเพียงพอน แต่นากจัดอยู่ในวงศ์ย่อย Lutrinae มีทั้งหมด 6 สกุล (ดูในตาราง)เป็นสัตว์บกที่สามารถว่ายน้ำและหากินในน้ำได้อย่างคล่องแคล่วมาก มีรูปร่างโดยรวมหัวสั้นและกว้างแบน หูมีขนาดเล็กซ่อนอยู่ใต้ขน นิ้วตีนทั้ง 4 ข้างมีพังผืดคล้ายตีนเป็ด ขนลำตัวสีน้ำตาลอมเทา มี 2 ชั้น ชั้นในละเอียด ชั้นนอกหยาบ ขาหลังใหญ่และแข็งแรงกว่า ขาหน้า ใช้ว่ายน้ำร่วมกับหาง มีฟันแหลมและแข็งแรง มีหนวดยาวใช้เป็นอวัยวะจับการเคลื่อนไหวของสิ่งที่อยู่ใต้น้ำและใช้เป็นประสาทสัมผัสเมื่อเวลาอยู่ในน้ำ ไล่จับปลาและสัตว์น้ำเล็ก ๆ เป็นอาหาร ในบางชนิดอาจกินสัตว์จำพวกอื่นที่มีขนาดใหญ่กว่าได้ด้วย ออกหากินทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน มีพฤติกรรมอยู่รวมกันเป็นฝูงเล็ก ๆ ขุดรูอยู่ริมตลิ่งใช้เป็นรังสำหรับอาศัยและเลี้ยงดูลูกอ่อน

นากจึงเป็นสัตว์ที่มีที่อยู่ในธรรมชาติใกล้กับแหล่งน้ำหรือพื้นที่ชุ่มน้ำต่าง ๆ หลากหลายประเภท เช่น บึง, ทะเลสาบ, ลำธาร, ป่าชายเลน แม้แต่พื้นที่เกษตรกรรมของมนุษย์ เช่น ท้องร่องในสวนผลไม้, นาข้าว หรือนากุ้ง เป็นต้น พบได้ทั่วโลก โดยชนิดที่ใหญ่ที่สุด คือ นากยักษ์ (Pteronura brasiliensis) พบในลุ่มแม่น้ำอเมซอนในทวีปอเมริกาใต้ บางชนิดพบในทะเล คือ นากทะเล (Enhydra lutris) ที่สามารถนอนหงายท้องบนผิวน้ำทะเลและเอาหินทุบเปลือกหอยกินเป็นอาหารได้ด้วย

นาก เป็นสัตว์ที่มีความปราดเปรียวคล่องแคล่วว่องไวมาก ทั้งบนบกและในน้ำ เมื่อเวลาดำน้ำจมูกจะสามารถปิดได้เพื่อป้องกันน้ำเข้า นากสามารถดำน้ำได้ลึกถึง 60 ฟุต และกลั้นหายใจได้นานถึง 4 นาที ขณะที่ว่ายน้ำและดำน้ำ นากจะใช้วิธีเคลื่อนที่ด้วยการบิดตัวไปมาของลำตัวและหาง อีกทั้งนากสามารถยืนและเดินด้วย 2 ตีนหลังได้ด้วยเป็นระยะทางสั้น ๆ

นากหากินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะในเวลากลางคืน นากจะเดินทางเพื่อหากินได้ไกลถึง 20 กิโลเมตรหรือมากกว่านั้น โดยปกติแล้ว นากจะกินสัตว์น้ำต่าง ๆ เป็นหลัก แต่ก็สามารถล่าสัตว์บกขนาดใหญ่ เช่น เป็ด, ไก่, นกกระทา, กระต่าย เป็นอาหารได้ด้วย จึงมักเป็นศัตรูต่อมนุษย์ โดยเฉพาะผู้มีอาชีพเป็นเกษตรกร

ในเวลากลางคืน นากจะนอนหลับอยู่ในรูที่ขุดไว้ริมตลิ่ง หรือนอนตามซอกโคนต้นไม้หรือบางครั้งอาจจะขึ้นมานอนบนพื้นเปล่า ๆ ริมตลิ่งได้เช่นกัน แต่ไม่บ่อยนัก นากให้กำเนิดลูกได้ตลอดทั้งปี แต่ละครอกจะมีลูกประมาณ 3 ตัว จะออกลูกในรังที่อยู่ตามกอหญ้าหรือพืชน้ำต่าง ๆ ที่มีความสูงและรก โดยเฉพาะใต้ตลิ่งที่มีรากของต้นไม้ใหญ่ยึดไว้และมีทางเข้าออกใต้น้ำได้ จะเป็นที่ ๆ ทำรังอย่างดีที่สุด ลูกนากที่เกิดใหม่จะมีขนสีดำเป็นแววมัน และจะอาศัยอยู่ในรังประมาณ 5 สัปดาห์ โดยแม่นากจะนอนกกลูกเพื่อให้ความอบอุ่นอยู่เสมอ ส่วนนากตัวผู้ซึ่งเป็นพ่อ จะทำหน้าที่คอยส่งอาหารและดูแลความปลอดภัยให้ ลูกนากจะออกจากรังเมื่ออายุได้ 6–7 สัปดาห์ แต่จะยังอยู่ใกล้ชิดกับพ่อแม่ แม้จะว่ายน้ำได้เลย แต่ก็ไม่คล่องแคล่ว จึงต้องได้พ่อและแม่คอยสอนให้ ลูกนากเมื่อสัมผัสน้ำครั้งแรก จะไม่ค่อยกล้าลงน้ำ พ่อและแม่นากจึงต้องหลอกล่อเพื่อให้ลง และสอนว่ายน้ำให้

นากเป็นสัตว์ที่ร่าเริง และขี้เล่นมาก มีพฤติกรรมชอบเล่นสนุกอยู่เสมอ ๆ โดยเฉพาะการลื่นไถลลงมาตามทางลาดชันริมตลิ่ง เหมือนสไลเดอร์ในสวนน้ำ โดยการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนขึ้นปีนตลิ่งครั้งละตัว แล้วใช้ 2 ตีนหลังผลักตัวเองแบบนอนหงายท้องราบหรือท้องคว่ำให้ไถลลงมา นอกจากนี้แล้วเมื่อเวลาเดินทาง นากบางครั้งก็จะใช้วิธีนี้เพื่อให้เร็วขึ้นด้วย

นอกจากนี้แล้ว นากยังมีพฤติกรรมที่ชอบคลุกตัวเองเข้ากับมูลของตัวเอง เพื่อให้มีกลิ่นประจำตัวติดตัวไปตลอดในฝูง เป็นการแสดงตนและประกาศอาณาเขต กองมูลของนากมักจะมีเศษชิ้นส่วนของปลา เช่น ก้าง, เกล็ด หรือเปลือกหอยที่ย่อยไม่หมดปะปนอยู่ด้วย ขณะที่นากเล็กเล็บสั้นเมื่อถ่ายแล้ว มักจะใช้หางตีให้กระจาย มูลของนากเล็กเล็บสั้นจึงมักจะกระจายเป็นชิ้นเล็ก ๆ ไม่อยู่เป็นกลุ่มก้อนเหมือนนากชนิดอื่น

เรื่องน่ารู้ของตัวนาก

river-otter-being-thoughtful-jpg-638x0_q80_crop-smart

1 เหล่านากทั้งหลายนั้นมีอาหารหลักก็คือปลา แต่คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิดว่าตัวนากเป็นสัตว์กินพืช และผลไม้ จริงๆ แล้วเป็นสัตว์นักล่านะจ๊ะ

26-15

2 ‘นากทะเล’ จะเป็นสปีชีส์เดียวที่มีหางสั้นกว่า และมีกล้ามเนื้อที่หางน้อยกว่าสปีชีส์อื่นๆ เพราะสปีชีส์อื่นๆ นั้นจะใช้หางเป็นเสมือนกับอาวุธอันทรงพลัง และใช้ในการกำหนดทิศทางในการว่ายในกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก

maxresdefault

 

3 นากทะเลเป็นสัตว์ที่มีขนหนามากที่สุดในบรรดาสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ขนาดที่ว่ามีขนประมาณ 1 ล้านเส้น ใน 1 พื้นที่ตารางนิ้วเลยทีเดียว!! และด้วยเหตุนี้ทำให้ในช่วงปี 1741 – 1911 พวกมันถูกล่าเพื่อเอาหนังและขนไปใช้ประโยชน์เป็นจำนวนมาก

otter-murgeon

4 เหล่านากจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนบก แต่หลายๆ คนคิดว่าพวกมันน่ะชอบอยู่ในน้ำ ยกเว้นนากทะเลที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในน้ำ

maxresdefault-1

5 เหล่านากที่มีอยู่บนโลกนั้นมีสปีชีส์ที่แตกต่างกันออกไปมากกว่า 13 สปีชีส์ และจากหลักฐานทางโบราณคดีก็พบว่าพวกมันมีชีวิตอยู่บนโลกนี้มานานกว่า 5 ล้านปีแล้ว

893bfcab-b72d-45fd-9638-3ec507602b4b-copy

6 ทวีปแอนตาร์กติกาและทวีปออสเตรเลียเป็นเพียงสองทวีปในโลกเท่านั้นที่จะไม่สามารถพบปะกับพวกมันได้ เพราะเหล่านากนั้นจะอาศัยอยู่ในเขตมีสภาพอากาศอบอุ่น

22-27-1

7 นากนั้นเป็นเผ่าพันธุ์ที่ใกล้เคียงกับเหล่า แบดเจอร์ เฟอร์เร็ต สกั๊งค์ และตัวมิงค์ ราวๆ กับเป็นญาติห่างๆ กัน แต่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันกับบีเวอร์เลย ถึงอย่างนั้นมันก็มักจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นบีเวอร์อยู่บ่อยๆ (อาจเป็นเพราะพวกมันว่ายน้ำได้เหมือนกันก็เป็นได้ ฮร่า)otter-murgeon

river-otters-lead-photo-jpg-638x0_q80_crop-smart

8 พวกมันมีความสามารถในการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในธรรมชาติเพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิต อย่างเช่นการเอาก้อนหินมากระเทาะเปลือกหอย

otter3

9 อายุขัยโดยเฉลี่ยของตัวนากนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 10 ปี แต่ถ้าได้รับการดูแลเป็นอย่างดีพวกมันก็อาจจะเพิ่มอายุไขมากขึ้นเป็นเท่าตัว

6-185-1068x724

10 ตัวนากมีหางยาวมากถึง 30 เซนติเมตร ซึ่งมันจะสามารถช่วยให้นากสามารถใช้มันเป็นหางเสือแหวกว่ายไปมาในน้ำได้อย่างอิสระ อันที่จริงส่วนหางของมันมีกระดูกเป็นสัดส่วนทั้งหมด 1 ใน 3 ของกระดูกทั้งร่างกาย

4ad6962a7f2e9ff545271031477c6331-copy

11 ตัวนากสามารถดำน้ำได้นานถึง 4 นาที และดำได้ลึกกว่า 91 เมตร เพื่อหาอาหาร

sea-otter-mom-pup-copy

12 เหล่านากชื่นชอบการนอนอาบแดดในตอนกลางวัน และจะมีความกระตือรือร้นในช่วงกลางคืน

3-287

13 คำว่า OTTER ที่เป็นชื่อเรียกภาษาอังกฤษของตัวนากนั้นมาจากศัพท์อังกฤษโบราณ และ รากศัพท์ของภาษาอินโด-ยูโรเปียน ที่เคยใช้สร้างคำศัพท์ว่า WATER มาก่อน

cute-baby-otter-copy

14 ตัวนากสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดคือสายพันธุ์นากยักษ์ มีความยาวอยู่ที่ประมาณ 2 เมตร และมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 41 กิโลกรัม

Oops I did it again

15 นากทะเลเวลาหลับแล้วลอยตัวอยู่บนจะชอบจัมือเพื่อไม่ให้ไหล่ห่างออกจากกัน

sea_otters_holding_hands
น่ารักเนอะ><

 

ปล.ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%81

และhttp://www.catdumb.com/facts-about-otter-119/

images-1-copy